...
Toxic Productivity สู่ Burnout

วันที่ :11/12/2568 | จำนวนเข้าชม :117

:: บทความทั่วไป

ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้เราสามารถ "เชื่อมต่อ" และ "ทำงาน" ได้ตลอดเวลา ทำให้เราได้รับผลกระทบอะไรบ้างและเราควรจัดการกับมันอย่างไร

ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้เรา "เชื่อมต่อ" และ "ทำงาน" ได้ตลอดเวลา เส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการงานก็เริ่มเลือนหายไป สิ่งนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางสุขภาพจิตที่เรียกว่า Toxic Productivity และนำไปสู่สภาวะ Burnout ในที่สุด การเข้าใจและจัดการกับวงจรนี้จึงเป็นทักษะสำคัญสำหรับคนทำงานในโลกยุคดิจิทัล"

 

1. ทำความรู้จักกับ Toxic Productivity

Toxic Productivity คืออะไร?

 

2. แรงขับเคลื่อนของ Toxic Productivity

แรงขับเคลื่อนที่ทำให้เกิด Toxic Productivity

ผลกระทบที่ได้รับ อาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจและร่างกายอย่างรุนแรง, ประสิทธิภาพการทำงานลดลงในระยะยาว, และความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ห่างเหิน

 

3. รับมือกับภาวะ 'หมดไฟ' (Burnout)

Burnout คือสภาวะของความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ร่างกาย และจิตใจ ที่เกิดจากการทำงานหนักหรือความเครียดสะสมในระยะยาว เมื่อเข้าสู่ภาวะนี้ เราต้องเปลี่ยนจากการ "พยายามทำงาน" เป็นการ "พยายามฟื้นฟู"

 

4. Digital Detox การสร้างขอบเขตทางดิจิทัล

ในยุคที่โทรศัพท์มือถือเป็นส่วนขยายของตัวเรา Digital Detox คือการลดหรือหยุดการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลชั่วคราว เพื่อให้จิตใจได้พักผ่อนและกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

 

5. การสร้าง Work-Life Balance ที่แท้จริงในยุคดิจิทัล

Work-Life Balance ไม่ใช่การแบ่งเวลา 50/50 อย่างเคร่งครัด แต่คือการสร้าง ความกลมกลืนทางดิจิทัล (Digital Harmony) ที่ช่วยให้เราจัดการพลังงานระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างยืดหยุ่น

ดังนั้น การจัดการกับ Toxic Productivity และ Burnout ในยุคดิจิทัล เริ่มต้นจากการปรับ Mindset ว่า "การพักผ่อนคือส่วนหนึ่งของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ" ไม่ใช่ความขี้เกียจ การสร้างขอบเขตที่ชัดเจนกับเทคโนโลยีและการสื่อสารจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพจิตที่สมดุลและยั่งยืน

.................................................................

แหล่งข้อมูล: โรงพยาบาลพญาไท , โรงพยาบาลศิครินทร์ , บริษัท กระจ่าง

จัดทำโดย: นางสาวปทุมวดี กลาทอง (นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ)

 

:: บทความที่เกี่ยวข้อง